อนุสาวรีย์พระยาทุกขราษฎร์ (ช่วย)
เล่าสืบกันมาว่า สามเณรช่วยสามารถสอบบาลีผ่านได้เป็น “พระมหา” ตั้งแต่เป็นสามเณร ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักตามหัวเมือง ในขณะที่จำพรรษาที่จัดเขาอ้อ ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์อย่างจริงจัง สามารถปฏิบัติได้จนเป็นที่ยอมรับของพระอาจารย์และบรรดาศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน ที่พอเสนอรายชื่อเท่าที่ทราบดังนี้ หลวงพ่อศรีธรรม์ วัดนาท่าม อำเภอเมืองตรัง, ท่านสมภารบัวชาติ(ทราบว่าอยู่จังหวัดชุมพร), ท่านสมภารบัวราม วัดโดนคลาน ปัจจุบันยังคงมีอัฐิของท่านเก็บรักษาไว้ทางด้านทิศเหนือพระอุโบสถ ยังเป็นที่เคารพนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ ปรากฎเป็นที่ทราบกันทั่วไปของชาวบ้านปันแต ประมาณปี พ.ศ.2315 เมืองพัทลุงย้ายที่ตั้งเมืองจากเขาชัยบุรีไปตั้งใหม่ที่บ้านโคกลุง ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง โปรดเกล้าฯให้พระยาพัทลุง(ขุนคางเหล็ก)เป็นเจ้าเมือง ท่านผู้นี้เดิมนับถือศาสนาอิสลาม แต่ต่อมาได้เปลี่ยนนับถือศาสนาพุทธ ในช่วงนั้นพระมหาช่วยได้รับนิมนต์มาเป็นสมภารที่วัดป่าลิไลยก์ ประมาณว่าท่านอายุได้ประมาณ 33 ปี และวัดนี้เป็นสำนักสอนภาษาบาลี บรรดาลูกศิษย์ที่เคารพนับถือด้านไสยศาสตร์ก็มาฝากเนื้อฝากตัวมากมาย เช่นเดิม จนปรากฎชื่อแพร่หลายควบคู่ทั้งบาลและไสยศาสตร์ ความสัมพันธ์ด้านส่วนตัวของเจ้าเมืองพัทลุงคงจะสนิทสนมมากขึ้นเพราะเป็นวัดใกล้จวนเจ้าเมือง เป็นพระอธิการอยู่ที่วัดป่าลิไลย ตำบลลำปำ มีชีวิตอยูในสมัยรัชกาลที่ 1 จากพงศาวดารไทยรบพม่า “กองทัพพม่าลงไปรวมกันอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช ด้วยเกงหวุ่นแมงยีประสงค์จะไปตีเมืองพัทลุง และเมืองสงขลาต่อไปที่เมืองพัทลุง พระยาแก้วโกรพ ผู้ว่าราชการเมืองและกรมการเมืองรู้ว่าเมืองนครศรีธรรมราชเสียแก่ข้าศึกก็หลบหนีเอาตัวรอด ครั้งนั้นมีพระภิกษุองค์หนึ่งเป็นอธิการอยูในวัดเมืองพัทลุง ชื่อพระมหาช่วย พวกชาวเมืองนับถือว่าเป็นผู้มีวิชาอาคม พระมหาช่วยชักชวนชาวเมืองพัทลุงให้ต่อสู้ข้าศึก รักษาเมือง ทำตะกรุดและผ้าประเจียดมงคลแจกจ่ายเป็นอันมาก กรมการและพวกนายบ้านจึงพาราษฎรมาสมัครเป็นศิษย์พระมหาช่วยมากขึ้นทุกที จนรวบรวมกันได้สัก 1,000 เศษ หาเครื่องศาสตราวุธได้ครบมือกันแล้ว ก็เชิญพระมหาช่วยผู้อาจารย์ขึ้นคานหามยกเป็นกระบวนทัพมาจากเมืองพัทลุง แล้วเลือกหาชัยภูมิที่ตั้งค่ายสกัดอยู่ในทางที่พม่าจะยกลงไปเมืองนครศรีธรรมราช ฝ่ายพม่ายังไม่ยกลงไปจากเมืองพัทลุง ได้ข่าวว่ากองทัพกรุงเทพยกลงไปจากทางข้างเหนือ เกงหวุ่นแมงยี แม่ทัพพม่าจึงให้เนยโยคงนะรัดนายทัพหน้า คุมพลยกกลับขึ้นมาตีกองทัพกรุงฯ เกงหวุ่นแมงยียกตามมาข้างหลัง กองทัพพม่ามาปะทะทัพไทยที่ตั้งอยู่ ณ เมืองไชยา พม่ายังไม่ทันตั้งค่าย ไทยก็ยกเข้าล้อมพม่าไว้”